ea

มารู้จักกับ Retageting/ Remarketing กันว่ามันคืออะไร นักการตลาดออนไลน์ไม่มีใครไม่รู้จักRetageting/ Remarketingแต่ก็ยังมีอีกหลายๆกลุ่มที่ยังไม่รู้จักวันนี้พวกเรา pageshopy ได้หาข้อมูลเพื่อให้เพื่อนๆที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ศึกษาเกี่ยวกับ Retageting/ Remarketing ว่าอะไรคือ Retageting/ Remarketing มันมีความสำคัญกับร้านค้าออนไลน์ยังไง รวมไปถึงประโยชน์และวิธีใช้ ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ 

1 อะไรคือ RETARGETING / REMARKETING

ก่อนอื่นต้องมารู้จักก่อนว่า อะไรคือ Retageting/ Remarketing สองคำนี้มีความหมายเหมือนกันซึ่งก็คือการทำการตลาดเพื่อเป็นการย้ำความสนใจ ไปยังกลุ่ม เป้าหมาย ซึ่งอาจเคยเป็นลูกค้าเก่าของร้านค้าคุณอยู่แล้ว และเมื่อคุณทำการโฆษณาซ้ำอีกรอบ ก็มีโอกาสมาก ที่เขาอาจจะกลับมาเป็นลูกค้าของคุณได้ อย่างเช่น เราเข้าไปดูเว็บไซต์ต่างๆมา  แบบว่าเราเข้าไปดูเว็บ Lazada และเมื่อเข้าไปเว็บไซต์อันอื่นต่อ เรากลับพบโฆษณาของเว็บก่อนหน้านั้นตามเราไปในหลายๆ ที่ นี่แหละค่ะคือการทำRetageting/ Remarketing 

2 มันสำคัญกับร้านค้าออนไลน์อย่างไร

การทำ RETARGETING / REMARKETING เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมายังร้านค้าออนไลน์ของคุณอีก และช่วยเพิ่มโอกาสให้สินค้าในร้านขายได้ มันคือวิธีการ “กลับไปเข้าถึงลูกค้าที่เคยแวะมา” ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าอยากให้สินค้าในร้านขายได้ วิธีนี้จำเป็นที่จะต้องถูกนำามาใช้ เพราะมันคือวิธีการตามตื้อลูกค้าที่เคยแวะมาดูสินค้าเราครั้งหนึ่งแล้ว แม้ลูกค้าคนนั้นจะไปชมสินค้าจากแหล่งอื่นต่อ ก็จะเจอกับโฆษณาสินค้าเราตามไปตื้ออย่างน่าประหลาดใจ แถมเรายังสามารถกำหนดการโปรโมทได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการและวัตถุประสงค์ของเราได้อีกด้วย

3 ประโยชน์ของ RETARGETI NG / REMARKETING

ลองนึกภาพดูว่ามีลูกค้าที่เคยแวะมาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ออนไลน์ของคุณ แต่แล้วลูกค้ากลับยังไม่ตัดสินใจซื้อ อีกไม่นานลูกค้าท่านเดิมกลับมาซื้อสินค้าที่ร้านในปริมาณที่มากกว่าเดิม ทำให้ร้านได้ยอดขายและกำไร เนื่องจากร้านได้ทำ RETARGETING / REMARKETING ให้กับสินค้าในร้าน จะเห็นได้ว่านี่คือข้อดีของการใช้วิธีนี้ และเนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้สามารถดักเก็บข้อมูลลูกค้า ทั้งข้อมูล เพศ วัย สิ่งที่กำลังค้นหา ความชอบ จะทำให้ร้านได้ข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดทางการตลาดได้อีกหลายทาง

4 มีหลักการใช้อย่างไร

หลักการของการทำ RETARGETING คือการดักเก็บข้อมูลของผู้ที่เคยเข้ามาเยี่ยมชมเนื้อหาสินค้าของเราบนเพจหรือเว็ปไซต์ของเรา ดังนั้นแล้วจะจำต้องกำหนดให้เครื่องมือนี้ทำงานดักเก็บข้อมูลที่เราต้องการก่อน ซึ่งอาจจะต้องใช้ทักษะทางซอร์ฟแวร์คอมพิวเตอร์หรือจ้างผู้ที่สามารถทำให้ได้ทำให้ และถ้าหากใครมีเฟสบุ๊คเพจก็สามารถใช้เครื่องมือนี้ได้ในส่วนของการกำหนดค่า custom audience ให้ตรงกับความต้องการของเรา หรือสามารถทำได้บนเว็ปไซต์ที่เป็นของเราเองก็ได้ซึ่งจะสะดวกและข้อมูลทั้งหมดที่ได้จะเป็นของเราเองอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกวิธีที่ธุรกิจออนไลน์ควรต้องรีบทำ อย่าลืมคิดและพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างสม่ำเสมอนะคะ พวกเรา pageshopy สัญญาว่าจะหาข้อมูลใหม่ๆดีที่มีประโยชน์ๆมาให้เพื่อนๆได้ศึกษาและได้นำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของเพื่อนๆให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจออนไลน์ของท่านให้มากที่สุดฝากติดตามที่ pageshopy  และ blog.pageshopy.com นะคะ