15
2019
เทคนิคขายของออนไลน์ให้ปังในช่วงวันแห่งความรัก สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกเช่นเคยกับคอนเท้นต์ประจำสัปดาห์นี้ สำหรับสัปดาห์นี้เราจะมาพูดถึงสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวันแห่งความรัก แต่ต้องขอบอกก่อนนะคะว่า เป็นสาระสำคัญที่สามารถนำมาช่วยสร้างรายได้ให้กับคุณผู้อ่านหรือใครก็ตามที่กำลังทำธุรกิจออนไลน์อยู่ แล้วอยากได้ยอดขายที่ปังๆ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้วตามมาอ่านต่อกันเลยค่ะ
1 นำสินค้าตามวันสำคัญนั้นมาขาย
ถ้าจะพูดถึงวันแห่งความรักแล้วล่ะก็ สินค้าที่น่าขายก็เห็นทีจะไม่พ้น พวกเสื้อคู่ ช็อคโกแลต ตุ๊กตา สติ๊กเกอร์รูปหัวใจต่างๆ แหวน และอื่นๆ เป็นต้น เราควรหาสินค้าเหล่านี้มาวางขายในร้านค้าออนไลน์ของเราเพื่อเป็นการเรียกลูกค้า และยังเป็นการช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลอีกด้วยค่ะ
2 จัดสินค้าขายเป็นเซ็ต
การจัดสินค้าแบบเป็นชุดเป็นเซ็ตก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิค ที่จะช่วยให้ยอดขายของเราปัง ส่วนสินค้าที่ควรนำมาจัดเข้าเซ็ตกันก็อย่างเช่น สกินแคร์ เครื่องสำอาง น้ำหอม เครื่องประดับ เข็มขัดผู้ชาย เสื้อผ้า เหล่านี้เป็นต้น เพราะการจัดชุดสินค้าให้เข้าเซ็ตกันจะทำให้สินค้าดูน่าสนใจ น่าซื้อ
3 จัดกิจกรรมสำหรับคู่รัก แจกส่วนลด
ช่วงเทศกาลแห่งความรักแบบนี้ พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายห้ามพลาดในการจัดกิจกรรม ให้เข้ากับเทศกาล ไม่ว่าจะแจกบัตรกำนัน ส่วนลด ต่างๆเดือนนี้เป็นเทศกาลวันวาเลนไทน์วันแห่งความรักคู่รักต่างพากันหาสิ่งของมอบให้แด่คนรัก เพราะฉะนั้นคุณต้องคิดเร็วพลิกโอกาสโดยการจัดกิจกรรม ให้คู่รักมีกิจกรรมร่วมกับร้านค้าคุณ ให้คู่รักใส่เสื้อคู่ถ่ายรุปส่งมาเพื่อรับส่วนลด ที่ทางร้านจัดขึ้น แค่นี้ก็ช่วยให้ทางร้านค้าคุณดูน่าสนใจ แถมยอดขายก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย
4 ไลฟ์สดขายสินค้าพร้อมโปรโมทร้าน
ถ้าพูดถึงการไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ ถือว่าเป็นที่นิยมที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ใช้วิธีการไลฟ์สดขายสินค้ากันอย่างเป็นจำนวนมาก เพราะการไลฟ์สดช่วยในการกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี แม่ค้าพ่อค้าอาจจะแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลเพื่อดึงดูดความสนใจให้แก่ผู้ซื้อหันมารับชมไลฟ์สดและสนใจในตัวสินค้าของเรามากขึ้น บางร้านค้ามีกลยุทธ์อะไรเด็ดๆก็สามารถนำมาปรับใช้ในการไลฟ์สดทำให้ยอดขายทะลุเป้ากันเลยทีเดียว
อย่าปล่อยให้ช่วงเทศกาลผ่านเลยไปโดยที่ยอดขายเรายังไม่ขยับ โอกาสดีดีมาถึงแล้ว เราควรอาศัยช่วงเทศกาลนี้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจของเราให้ได้ยอดขายที่ปังๆ กับเทคนิคที่ Pageshopy ได้นำมาฝากกันค่ะ ติดตามบทความดีๆในครั้งต่อไปได้ที่ Pageshopy หรือ blog.pageshopy.com นะคะ
1 Comment