September
14
2018
 
 

หลายคนคงกำลังครุ่นคิดอยู่ว่า อยากทำธุรกิจสักอย่าง แต่ไม่มีเงินสำหรับเป็นทุนเริ่มธุรกิจเลย พอจะมีวิธีไหนบ้าง วันนี้เรามีคำตอบสำหรับผู้ที่มีไอเดียอยากเริ่มธุรกิจแต่ไม่มีเงินทุน ให้ได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจได้ง่ายๆ

เคยได้ยินคำว่า ดรอปชิป(Dropship) ไหมเอ่ย อธิบายง่ายๆก็คือ การขายของโดยที่ไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเองหรือสต๊อกของไว้เอง โดยอาศัยการนำสินค้าของคนอื่นมาขายต่อ และได้ทำไรจากการเพิ่มราคาจากต้นทุนที่เรารับมา ลักษณะจะคล้ายกับการเป็นนายหน้าให้กับร้านที่เรารับสินค้ามาขาย เมื่อลูกค้าสั่งซื้อของ เราเพียงแจ้งกับผู้ให้บริการ ดรอปชิป ให้จัดส่งของไปยังลูกค้าของเรา เพียงเท่านี้เราก็ได้กำไรแบบไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย

ข้อดี

– ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามาสต๊อก

– ไม่ต้องกลัวขาดทุนเพราะไม่ได้ลงทุนซื้อสินค้า

– ประหยัดเวลาในการ จัดเตรียมเนื้อหาข้อมูล รูปภาพ ของสินค้า เพราะเจ้าของสินค้าสินค้าเตรียมไว้แล้ว

– ตั้งราคาสินค้าเองได้เพื่อเอากำไรและไม่ต้องส่งสินค้าด้วยตนเองเพราะเจ้าของสินค้าจะดำเนินการเอง

ข้อเสีย

– เป็นธุรกิจที่ไม่ได้เป็นของคุณเอง เพราะเราเป็นเพียงนายหน้าจึงอาจไม่มีความมั่นคง

– เป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งค่อนข้างมาก ใครก็ทำได้เพราะไม่ต้องลงทุน

วิธีการทำและเตรียมตัวทำดรอปชิป(Dropship)

icon credit: https://www.iconfinder.com/

1. หาแหล่งผู้ให้บริการทำดรอปชิปที่เชื่อถือได้และหาสินค้าที่ต้องการจะขาย แหล่งผู้ให้บริการที่คุ้นๆหูกันในบ้านเราก็คงเป็นใครไปไม่ได้นั่นก็ คือ aliexpress.com ผู้เขียนเพียงแค่ยกตัวอย่างมาให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นนะค่ะส่วนใครที่คิดว่ามีแหล่งผู้ให้บริการที่เด็ดกว่าดีกว่าก็ไม่ว่ากันค่ะ หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แหล่งผู้ให้บริการดรอปชิป แต่ของ aliexpress.com เจ้านี้เค้าฟรี!ค่ะไม่มีค่าสมัครสมาชิก ส่วนสินค้าที่จะขายก็มีแบบขายส่งตั้งแต่ปริมาณที่น้อยไปจนถึงมากค่ะ เมื่อเราเลือกแหล่งผู้ให้บริการได้แล้วขั้นตอนต่อมาก็คือมาคิดกันเลยว่าคุณอยากจะขายสินค้าอะไรดีค่ะ

2. หลังจากที่เราได้พบกับผู้ให้บริการ Dropship แล้ว ให้สมัครสมาชิกและนำข้อมูลสินค้า เช่น รายละเอียดสินค้า รูปสินค้า มาโพสต์ขายในร้านค้าออนไลน์ของตนเองเช่น เปิดเฟสบุ๊คแฟนเพจเพื่อขายสินค้า  สมัครแอคเคาน์ไอจีลงรูปขายของ ลงรูปสินค้าในTimelineในไลน์ หรือสมัครเป็นสมาชิของเว็ปไซต์ขายของต่างๆ เช่น ขายดี ช้อปปี้ ลาซาด้า เป็นต้น

3. เมื่อทำการโพสต์ขายเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการโปรโมทสินค้า หรือการทำ Marketing โดยต้องอาศัยเทคนิคตามถนัด เช่น การใส่ captionในเฟสบุ๊คที่ช่วยดึงดูดความสนใจ เน้น Keyword ที่ตรงใจลูกค้า, ใส่แฮ็ชแท็กคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเราเพื่อให้มีผู้ค้นหาสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น, หรืออาจแนะนำร้านค้านผ่านเว็ปบอร์ด กลุ่มซื้อขายต่างๆ

4. ขยันอัพเดทสินค้าใหม่ๆและพยายามนำสินค้าหลากหลายมาขาย อยากเป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องขยันค่ะ การหมั่นอัพเดทสินค้าอยู่เสมอจะทำให้ลูกค้าเห็นว่าเราไม่เอ้าท์ไม่ตกเทรนต์และมีการค้นหาความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องขยันโพสต์ด้วยนะค่ะ


ขอขอบคุณที่อ่านบทความของเรา ติดตามอ่านบทความอื่นได้ที่ facebookpage หรือ pageshopy




Facebook Comments

 

Comments are closed here.